4.ความคืบหน้างานปรับปรุงยานรบในอดีต
นับว่าเป็นข่าวดีที่ทีมงาน ปรับปรุงยานรบในอดีต ของเหล่าทหารม้า ได้พยายามสืบเสาะ ตามรอย ยานรบที่เคยประจำการ ในกองทัพบก และมีวีรกรรม ในการปฏิบัติภารกิจสำคัญต่างๆ ที่ผ่านมาซึ่ง ปัจจุบัน อยู่ ในระหว่างขั้นตอนการประสานงาน เพื่อขอรับกลับเข้าสู่บ้านทหารม้า ของเรา คือ รถกึ่งสายพาน M 3 ปัจจุบัน จัดแสดงอยู่ที่ หน้ากองบังคับการ กรมทหารม้าที่ ๕ รักษาพระองค์ จัดเป็นรถกึ่งสายพานหุ้มเกราะ ลำเลียงพล ที่สามารถบรรทุกกำลังพลได้ ๑๒ นาย เลยทีเดียว
รถถังเบา แบบ ๘๓ เป็นรถถัง เบา ที่ผลิตในประเทศ ญี่ปุ่น ในยุคสงครามอินโดจีน ที่กองทัพไทย ได้สั่งซื้อเข้าประจำการ พ.ศ. ๒๔๙๕ มีบทบาทสำคัญในสงคราม มหาเอเชียบูรพา มีพลประจำรถ ๓ นาย ติดตั้งปืนใหญ่ ขนาด ๓๗ มม. จำนวน ๑ กระบอกปืนกล ขนาด ๗.๗ จำนวน ๒ กระบอก ความเร็วสูงสุด บนถนน ๓๕ กม./ชม. ระยะปฏิบัติการ ๒๕๐ มม. เมื่อเชื้อเพลิงเต็มถัง ๑๔๐ ลิตร.
รถเกราะ แบบ ๙๒ ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่ กองรักษาการณ์ กรมทหารม้าที่ ๔ กองพันทหารม้าที่ ๑๑ รักษาพระองค์ เป็นรถเกราะล้อยาง ที่มีน้ำหนักความพร้อมรบ ๑๑ ตัน พลประจำรถ ๔ นาย มีเขี้ยวเล็บสำคัญคือ ปืนกล .๕๐ นิ้ว ๒ กระบอก มีระยะปฏิบัติการ ได้ไกลถึง ๗๒๕ กม. เมื่อน้ำมันเต็มถัง ๕๑๙ ลิตร.
รถถังเบา แบบ ๗๗ ปัจจุบันจัดแสดงบริเวณ เสาธงหน้ากองบังคับการ กองพันทหารม้าที่ ๒ กองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค์ เป็นรถถัง เบา ที่มีพลประจำรถ ๒ นาย มีอาวุธประจำรถ คือ ปืนกล ขนาด ๗.๗ มม. มีความเร็วสูงสุดที่ ๔๕ กม./ชม. นับเป็นรถที่มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่เป็นอย่างมาก
แม้ว่า ยานรบในอดีตทั้ง ๔ แบบ ที่เห็นในวันนี้ จากการสำรวจสภาพแล้ว ไม่มีเครื่องยนต์หลงเหลืออยู่ แต่คณะทำงานปรับปรุงยานรบในอดีต ก็จะพยายามนำเครื่องยนต์ที่มีใช้งานในปัจจุบัน มาดัดแปลงให้สามารถวิ่งได้ต่อไป อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณ ท่านผู้บังคับหน่วยทุกท่าน ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ และพร้อมส่งมอบยานรบในอดีตเหล่านี้ กลับคืนสู่บ้านทหารม้า ครับ