หลักสูตรทางทหารที่เข้ารับการฝึกสุดโหดของรบพิเศษไทย=หลักสูตรทหารแห่งชาติไทย

แนะนำเรื่องแบบย่อๆเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเหล่าทหารที่เข้ารับการฝึกสุดโหดของรบพิเศษไทยอันประกอบด้วย

1. หลักสูตรจู่โจม (RANGER) กองทัพบก

2. หลักสูตรน้ำทำลายใต้น้ำจู่โจม (SEAL) กองทัพเรือ

3. หลักสูตรลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก

 

 ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

หน่วยรบพิเศษ (Special Force) หมายถึง หน่วยทหารที่มีภารกิจหน้าที่ในการปฏิบัติการพิเศษต่าง ๆ ซึ่งต่อมา มีการพัฒนาหลักนิยมการปฏิบัติการของกองทัพ จึงได้มีคำที่คล้ายคลึงกันคือคำว่า การปฏิบัติการพิเศษ (Special Operation Force) โดยทั่วไปยังมีความหมายครอบคลุมใกล้เคียงกับคำว่า รบพิเศษ โดยในกองทัพไทยจะมีหน่วยรบพิเศษหรือ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ อยู่ในทั้งสามเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ภารกิจ

มีภารกิจทั่วไป 7 ประการ ทั้งนี้ อาจแตกต่างกันไป ขึ้นกับการกำหนดภารกิจและการออกแบบหน่วยของเหล่าทัพนั้นๆ คือ

 การสงครามนอกแบบ

     สงครามนอกแบบ (Unconventional Warfare) เป็นการปฏิบัติที่หน่วยรบพิเศษ ต้องใช้เวลาในการทำงานมากที่สุดการปฏิบัติที่เข้าไปในประเทศฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่ยังไม่มีสงครามแล้วสร้างกลุ่มต่อต้านรัฐบาลขึ้นมาเพื่อบั่นทอนความมั่นคงของรัฐบาลประเทศนั้น ๆถ้าต้องการทำสงครามกลุ่มต่อต้านก็จะช่วยกำลังรบตามแบบในการทำการรบได้ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงสงครามเย็นจีนได้สนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในความพยายามที่จะโค่นล้มรัฐบาลไทย และมีแผนที่จะสนธิกำลังตามแบบ จากเวียดนามในขั้นตอนสุดท้ายแต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคหลายอย่างทั้งในระดับยุทธศาสตร์และระดับยุทธการทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยอย่างมากสงครามนอกแบบนี้มีลักษณะคล้ายกับสงครามตัวแทน

 การป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ

      การป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ (Counter Insurgency) เป็นการปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบโดยกลุ่มคนที่มีการวมตัว มีการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้รัฐบาลปฏิบัติตามวัตถุประสงค์หรือความมุ่งหมายของกลุ่มตั้งแต่วัตถุประสงค์ทางการเมือง ล้มล้างรัฐบาล แบ่งแยกดินแดนจนถึงเข้าแทนที่รัฐบาลการก่อความไม่สงบนี้เป็นภารกิจที่รัฐบาลต้องระดมสรรพกำลังทั้งมวลในการแก้ไขโดยหน่วยรบพิเศษเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติ โดยจะประกอบด้วยงานการปฏิบัติการจิตวิทยา การปฏิบัติงานด้านการข่าวการพิทักษ์ประชาชนและทรัพยากร การพัฒนาและการช่วยเหลือประชาชนการปราบปรามกำลังติดอาวุธ

     โดยภาพรวมในการปฏิบัติการคือดำเนินการป้องกันด้วยการปฏิบัติการจิตวิทยา การข่าวเพื่อคอยติดตามว่าการก่อความไม่สงบจะเกิดขึ้นที่ไหน สาเหตุเงื่อนไขเป็นอะไรซึ่งตัวเงื่อนไขก็จะสามารถลดลงด้วย การพัฒนาและการช่วยเหลือประชาชนแต่ถ้ามีการผิดพลาดของการข่าว การพัฒนาการช่วยเหลือไม่สมดุลข้าราชการสร้างเงื่อนไข ประกอบกับมีแกนนำหรือกลุ่มบุคคลชี้นำหรือปลุกระดมก็จะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นก็จะต้องใช้มาตรการการพิทักษ์ประชาชนและทรัพยากรคือการสร้างความปลอดภัยให้ประชนชนไม่ว่าจะเป็นจัดชุดคุ้มครองลาดตระเวนแสดงกำลัง การห้ามประชาชนออกจากบ้านยามค่ำคืน การตั้งจุดตรวจพร้อมกับใช้การข่าว การปฏิบัติการจิตวิทยารวมทั้งทบทวนการพัฒนาและการช่วยเหลือประชาชน ในระหว่างนั้นถ้าผู้ก่อความไม่สงบเริ่มใช้กำลังติดอาวุธ ก็ต้องใช้กำลัง เข้าปราบปราม

การปฏิบัติการจิตวิทยา

      การปฏิบัติการจิตวิทยา (Psychological Operation) เป็นการปฏิบัติเพื่อให้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของฝ่ายตรงข้ามฝ่ายเป็นกลาง ให้มีประโยชน์ต่อการปฏิบัติภารกิจของฝ่ายเราไม่ว่าจะเป็นการยุยงด้วยการใช้สื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นใบปลิวการกระจายเสียง ให้ทหารชั้นผู้น้อยไม่เชื่อฟังผู้บังคับบัญชาการทำให้เกิดการเดินขบวนของประชาชนในการต่อต้านรัฐบาลตนเองการสร้างความหวาดกลัวด้วยการใช้ใบปลิวซึ่งอาจจะทำให้ข้าศึกยอมแพ้โดยไม่ต้องทำการรบ

การปฏิบัติภารกิจโดยตรง

     การปฏิบัติภารกิจโดยตรง (Direct Action) ภารกิจนี้เป็นการใช้กำลังในการเข้าทำลาย ยึดที่หมายที่ต้องการเพื่อการปฏิบัติการอื่น เช่น การยึดสนามบินการโจมตีที่เก็บเสบียงหรือที่บัญชาการของฝ่ายตรงข้ามซึ่งเป็นภารกิจที่สิ้นเปลืองทรัพยากรมากตั้งแต่การสร้างหน่วยที่จะไปทำภารกิจนี้ซึ่งจะทำเมื่อที่หมายดังกล่าวถ้าไม่ยึดหรือทำลายแล้ว ภารกิจจะไม่สำเร็จ

การลาดตระเวนพิเศษ

     การลาดตระเวนพิเศษ ( Special Reconnaissance) เป็นการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจโดยหน่วยรบพิเศษโดยลำพังหรือผ่านทางกำลังกองโจร วัตถุประสงค์เพื่อการยืนยัน ปฏิเสธข่าวสารสมมติฐานที่ได้มาก่อน ด้วยการตรวจการณ์หรือวิธีการรวบรวมอื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับขีดความสามารถเจตนารมณ์ และการปฏิบัติ ของข้าศึกหรือที่มีแนวโน้มจะเป็นข้าศึกการปฏิบัติการลาดตระเวนพิเศษอาจจะเกิดขึ้นเพื่อความต้องการการลาดตระเวนทางนิวเคลียร์ ชีวเคมี หรือเพื่อหาข้อมูลด้านอุตุนิยม อุทกศาสตร์ ภูมิประเทศในพื้นที่หนึ่ง

การต่อสู้การก่อการร้าย

     การต่อสู้การก่อการร้าย (Combatting Terrorist) หมายถึงมาตรการการป้องกันไม่ให้มีเหตุ และติดตามกลุ่มก่อการร้ายต่างๆรวมทั้งมาตรการในการตอบโต้ เมื่อมีการก่อการร้ายเกิดขึ้นส่วนมากบทบาทของหน่วยรบพิเศษจะอยู่ในรูปแบบของการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการจับตัวประกันโดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่มีข้อเรียกร้องทางการเมืองระหว่างประเทศ

ในประเทศไทยมีการจับยึดตัวประกันมาแล้ว ๘ ครั้งแล้วแต่มีการใช้กำลังต่อสู้เพียง ๑ ครั้งคือเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลราชบุรี เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2543

 การป้องกันภายในให้กับมิตรประเทศ

     การป้องกันภายในให้กับมิตรประเทศเป็นการปฏิบัติเพื่อช่วยเหลือมิตรประเทศให้เกิดความมั่นคงด้วยการสนับสนุนงานด้านต่างๆ เช่น การฝึกเจ้าหน้าที่ตำรวจการสนับสนุนด้านการศึกษา โดยเป้าหมายคือช่วยให้มิตรประเทศมีความมั่นคงซึ่งเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทางอ้อมและนำมาซึ่งความมั่นคงของภูมิภาค

ภารกิจคู่ขนาน

     ภารกิจคู่ขนานหมายถึงภารกิจที่มีหน่วยงานอื่นปฏิบัติเป็นหลักอยู่ในขั้นต้นโดยมีหน่วยรบพิเศษสามารถที่จะปฏิบัติการเสริมการปฏิบัติการดังกล่าวได้กิจกรรมนี้เป็นช่องทางหนึ่งของหน่วยรบพิเศษที่จะสามารถสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารที่ไม่ใช่สงครามซึ่งตามหลักนิยมของสหรัฐแล้วเป็นเพียงภารกิจที่เสริมการปฏิบัติหลักโดยเฉพาะการสร้างความชอบธรรมในการปฏิบัติการนอกจากนี้ยังสามารถเป็นรากฐานของการปฏิบัติการอื่น ๆ เช่นการให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาความปลอดภัยคล้ายกับการเข้าไปติดต่อเริ่มแรกและสามารถสร้างพื้นที่ในการปฏิบัติการป้องกันภายในมิตรประเทศ ซึ่งจะเป็นรูปแบบใหม่ของการเสริมสร้างกำลังกองโจรในศนบ. แต่เปลี่ยนจากกำลังกองโจรเป็นกำลังทหารของรัฐบาลที่จะใช้เป็นพันธมิตรในอนาคต ในการปกป้องผลประโยชน์ร่วมกัน

1. หลักสูตรจู่โจม Ranger กองทัพบกไทย

     ที่มาของเรื่องทั้งหมดอ้างอิงจาก  www.armyranger.com  www.navy.mi.th  นิตยสารสารคดี

     หลักสูตรจู่โจมที่จะเปิดการศึกษาแต่ละปีจะใช้หลักสูตรระยะเวลา 9 สัปดาห์(63วัน) หรือ 504 ชั่วโมง แบ่งภาคการฝึกออกเป็น 4 ภาค ดังนี้

- ภาคที่ตั้ง ระยะเวลา 12 วัน

- ภาคป่าที่ราบ ระยะเวลา 14 วัน

- ภาคป่า/ภูเขา ระยะเวลา 19 วัน

- ภาคป่าที่ลุ่มทะเล ระยะเวลา 14 วัน

การทดสอบ / ประเมินผลระหว่างรับการศึกษาในหลักสูตร

การทดสอบร่างกาย

* วิ่งตัวเปล่าในระยะทาง 3 ไมล์, 5 ไมล์ : เกณฑ์ผ่านใช้เวลาไมล์ละ 9 นาที

* เดินเร็วประกอบเครื่องสนามระยะทาง 6 ไมล์ และ 12 ไมล์ : เกณฑ์ผ่านใช้เวลาไมล์ละ 15 นาที

* เดินเร็วประกอบเครื่องสนามระยะทาง 17 ไมล์: เกณฑ์ผ่านใช้เวลาไมล์ละ 25 นาที

* เดินเร็วประกอบเครื่องสนามระยะทาง 800 เมตร : เกณฑ์ผ่านใช้เวลา 4 นาที 10 วินาที

* การเดินเร่งรีบ : ตามมาตรฐานของการฝึก ทบ.

* ทดสอบพลศึกษาก่อนเข้าภาคสนาม – ดึงข้อ เกณฑ์ผ่าน 9 ครั้ง เกณฑ์สูงสุด 20 ครั้ง/ไม่จำกัดเวลา

- ลุกนั่ง เกณฑ์ผ่าน 50 ครั้ง เกณฑ์สูงสุด 79 ครั้ง/เวลา 2 นาที

     ผู้เข้ารับการฝึกทุกคน ถูกจับละเลงตัวด้วยฝุ่นดำ เหมือนกันหมด เพราะที่นี่ไม่มียศ ไม่มีร้อยโท ไม่มีนายสิบ มีเพียงครูกับนักเรียน“เอี้ย เอี้ย เอี้ย” เสียงคำรามจากกองร้อยจู่โจม เมื่อการ รับน้องจะเริ่มขึ้น

     สถานีฝึกรับน้องแห่งแรกคือการคืบคลานไปในบึงโคลน อันเหนียวหนืด เป็นระยะทางกว่า 100 เมตรไม่มีการพัก ไม่สามารถโอดครวญ จะเหม็นเน่าโสโครก เท่าใด นักเรียนก็ต้องทนเอี้ย เอี้ย เสียงนักเรียนจู่โจมตะโกนคอแทบแตก แต่ครูฝึกบอกเสียงดังเหมือนลูกแมว

     นักเรียนจู่โจมต้องพร้อมเสมอ แม้เวลาพักทานอาหาร สัมภาระและอาวุธก็ยังติดกาย สนามวิบากในป่า นักเรียนต้องกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางอย่างฉับพลันและต่อเนื่อง ฝึกข้ามสิ่งกีดขวางโดยไต่ไปตามเชือกเส้นเดียวนักเรียนจู่โจมฝึกไต่ลงมาจากหน้าผาสูงพร้อมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์และคนป่วยสถานีวัดกำลังใจสุดๆ ของภาคป่าและภูเขาคือการไต่จากหน้าผาสูง 120 ฟุต ด้วยการเอาหน้าลง ผบ. กำลังทบทวนคำลั่งยุทธการ ให้นักเรียน จู่โจมออกปฏิบัติการขึ้นบก ซึ่งพวกเขาไม่รู้หรอกว่า มันคือการว่ายทะเลโคลนหลายกิโลเมตรทีละคืบ…ทีละคืบ ตะเกียกตะกายคลานในทะเลโคลน เป็นเวลาร่วม 5 ชั่วโมง กว่าจะเข้าฝั่งสำเร็จ…คือความหฤโหด ที่สุดของภาคทะเลนักเรียนตนนี้เป็นตะคริวอย่างรุนแรง เพราะอยู่ในทะเลโคลนนานเกินไป เพื่อนๆ ต้องช่วยกัน ลากขึ้นฝั่งและหามส่งโรงพยาบาลทันที

     นอกจากการขึ้นบก-ทะเลโคลน นักเรียน จู่โจมยังต้องลอยคอในทะเล ว่ายเข้าหาฝั่งเป็นระยะทางกว่า 2 ไมล์ทะเล ในสถานการณ์สมมุติว่าเรือแตก รุ่งเช้านักเรียนจู่โจมตระเตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์ก่อนออกเดินทางเพื่อเข้าโจมตีข้าศึก ณ พิกัด ที่ห่างออกไปประมาณ 50 กิโลเมตร เมื่อถึงการฝึกช่วงนี้ เครื่องหมาย “เสือคาบดาบ” ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว ความรู้ทุกอย่างในวิชาทหารที่ได้รับการฝึกสอนมา เช่น การลาดตระเวน การอ่านแผนที่ เข็มทิศ การใช้อาวุธการซุ่มโจมตี ฯลฯ นักเรียนจู่โจม ต้องนำออกมาใช้หมดในภาคการฝึกช่วงสุดท้าย จงภูมิใจกับความเหน็ดเหนื่อยตลอด ระยะเวลา 10 สัปดาห์มันเป็นสิ่งที่มีเกียรติที่สุด…” นายทหารชั้นผู้ใหญ่ กล่าวแก่นักเรียนผู้พิชิตเครื่องหมาย “เสือคาบดาบ”…ผู้พิชิตใจตัวเอง

2. หลักสูตร นักทำลายใต้น้ำจู่โจม SEAL

เครื่องหมายความสามารถของนักทำลายใต้น้ำจู่โจม นั้น

อาร์มแถบสีธงไตรรงค์ หมายถึง ชาติไทย

สมอสีเงินขัดมัน หมายถึง ทหารเรือ

ปลาฉลามสีเงินขัดมัน หมายถึง การปฏิบัติงานใต้น้ำมีความกล้า อดทน

     คลื่นสีทอง หมายถึง คลื่นหัวแตกบริเวณใกล้ฝั่งที่เป็นอุปสรรคที่ต้องเอาชนะให้ได้ ด้วยความสามัคคี  เล่าเรื่อง seal  หลังจากที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือผมก็เบนเข็มชีวิตตนเอง มาพิสูจน์ถึงความเป็นลูกผู้ชายแก่นแท้ที่ฝังอยู่ภายในตนเอง คำว่านักทำลายใต้น้ำจู่โจมนั้นเป็นคำที่หลายคนทราบถึงความสามารถ ของพวกเขา และ เครื่องหมายปลาฉลามขาว 2 ตัว โต้เกลียวคลื่น มีสมอและธงชาติอยู่ตรงกลางเป็นที่ใฝ่ฝันของเหล่าทหารกล้า ที่จะครอบครอง ผมเช่นกันผมอยากเป็นสมาชิกของกลุ่มเดือนแรก เป็นการเตรียมร่างกายให้ผู้เข้ารับการฝึก หรือเรียก พวกผมว่า นักเรียนนักทำลายใต้น้ำจู่โจมครูฝึกจะเริ่มต้นแนะนำ ทุกอย่างจะเริ่มจากง่ายไปยากร่างกายของพวกเราแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นก็เป็นการเปิดการฝึกในต้นเดือนที่สอง ทุกๆอย่างลำบากขึ้นเริ่มมีเครื่องช่วยฝึกเข้ามา เช่น เรือยาง ซุง หลายคนเริ่มทยอย ลาออกไปก่อนจะถึงสัปดาห์นรก 2สัปดาห์ ผู้เข้ารับการฝึกลาออกเป็นว่าเล่นจนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา ในวัน ๆหนึ่งเราฝึกกันไปตามตารางคือ วิ่ง ว่าย น้ำ PT. ซุง เรือยาง วันๆ คิดเพียงว่าเอาตัวให้รอดและปลอดภัยไม่คิดสิ่งอื่นใด คิดแต่ว่าเดี๋ยวก็หมดวันนี้

ทุกอย่างที่ครูฝึกป้อนมามันเป็นเกมส์ที่ทำให้พวกเรามีสภาพร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็งเพื่อเตรียมรับสภาพที่ทารุณในสัปดาห์นรก บางคนยอมแพ้ไปง่ายๆแม้ร่างกายเขาจะไปได้แต่เมื่อคิดว่าจะต้องเจออะไรในวันข้างหน้าก็ต้องหันหลังจากไป บางคนก็เกิดบาดเจ็บไม่สามารถทำการฝึกต่อได้ที่เหลือไม่กี่คนคือพวกที่พร้อมจะเข้าไปเผชิญหน้ากับพญามัจจุราชในสัปดาห์นรกแล้ว 


 

ที่มา : http://km.rta.mi.th/newkm/index.php/menu-km1/73-ranger